เพราะการใช้ชีวิตของมนุษย์ทั้งโลกมีพลังงานเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเสมอ ทุกวินาทีที่เรายังหายใจเราพึ่งพาพลังงานอยู่ตลอดเวลาไม่รูปแบบใดก็รูปแบบหนึ่ง อย่างเช่น ทันทีที่ตื่นเราก็ใช้พลังงานไฟฟ้า ออกจากบ้านก็ใช้พลังงานเชื้อเพลิง ถ้าหนาวก็ใช้พลังงานความร้อน เป็นต้น แต่เดิมเราใช้พลังงานจากธรรมชาติในเรื่องง่ายๆ และมักเป็นการใช้งานกันในวงแคบแบบครัวเรือน ต่อมาจึงเกิดเป็นอุตสาหกรรมพลังงานขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการดำรงชีวิตของมนุษย์มากขึ้นอีกระดับ เรามีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ต้องการใช้พลังงาน เรามีกิจกรรมความบันเทิงที่ต้องใช้พลังงาน และโดยภาพรวมเรามีอัตราการใช้พลังงานมากขึ้นทุกวัน จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่เราเริ่มตระหนักว่า หากพลังงานที่เราใช้อยู่นั้นหมดสิ้นไปจะเป็นอย่างไร
จุดกำเนิดของพลังงานทดแทน
จะบอกว่ามนุษย์เป็นผู้สร้างพลังงานทดแทนก็คงไม่ถูกซะทีเดียว เราไม่ได้เป็นผู้สร้าง พลังงานทั้งหมดมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ เราแค่มองเห็น แล้วดึงเอามาใช้ประโยชน์ในแบบที่เราต้องการเท่านั้นเอง อย่างที่เกริ่นไปแล้วข้างต้นว่า พอเราใช้พลังงานในปริมาณที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ก็เกิดความกังวลใจว่าในอนาคตข้างหน้า หากพลังงานที่มีอยู่ลดน้อยลงหรือหมดไปเลยจำทำอย่างไร แรกๆ ก็เป็นเพียงความคิดที่กระตุ้นให้หลายคนเกิดความสนใจ แต่พอเวลาผ่านไปเราจึงได้เห็นว่าสิ่งที่คิดนั้นมีสัญญาณว่าจะเกิดขึ้นจริงในช่วงระยะเวลารวดเร็วกว่าที่เราคิดเอาไว้ แนวคิดในการหาพลังงานทดแทนจึงเริ่มต้นขึ้น
ความหมายที่แท้จริงของพลังงานทดแทนก็คือ พลังงานในรูปแบบใหม่ๆ ที่จะเอามาใช้ทดแทนของเดิมที่เรากำลังใช้งานอยู่ ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ เช่น ยานพาหนะในปัจจุบันเราใช้น้ำมันเป็นพลังงานเชื้อเพลิงหลัก ต่อมาจึงปรับให้ใช้น้ำมันลูกผสมในตระกูลแก๊สโซฮอล์ได้ และล่าสุดก็มีการออกแบบเครื่องยนต์ให้รองรับการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ เป็นต้น นี่แหละคือลักษณะของพลังงานทดแทน ซึ่งมันก็ยังแยกย่อยออกไปได้อีกว่าพลังงานทดแทนเหล่านั้นเป็นแบบใช้แล้วหมดไป เรียกอีกอย่างว่าพลังงานสิ้นเปลือง หรือจะเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ใช้แล้วใช้อีกได้ ตัวอย่างของพลังงานทดแทนที่ค้นพบ มีการนำมาใช้ประโยชน์บ้างแล้วในปัจจุบัน มีดังต่อไปนี้
– พลังงานแสงอาทิตย์ นี่เป็นรูปแบบของพลังงานทดแทนในอันดับแรกๆ ที่เรารู้จักกัน แต่กระบวนการในการนำมาใช้งานกินเวลายาวนานกว่าพลังงานตัวอื่นค่อนข้างมาก อาจจะเป็นเพราะเราค้นพบในยุคที่เทคโนโลยียังไม่ทันสมัยเทียบเท่ายุคนี้ ค่าใช้จ่ายสำหรับการดึงพลังงานกลุ่มนี้มาใช้เลยยังสูงอยู่
– พลังงานลม หลายคนน่าจะเคยได้เห็นแหล่งผลิตพลังงานลมกันมาบ้างแล้ว แต่มันก็ไม่ได้แพร่หลายไปทั่วทุกพื้นที่ เนื่องจากบ้านเราไม่ได้มีกระแสลมยาวนานขนาดนั้น แถมค่าเฉลี่ยความเร็วลมก็ไม่ได้มากเท่าไร
– พลังงานชีวภาพ อันนี้ถือว่าเข้าทางกับวิถีชีวิตของคนบ้านเรา เนื่องจากเราเป็นเมืองเกษตรกรรม มีขยะทางการเกษตรเกิดขึ้นเยอะมากในแต่ละวัน มันสามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อด้วยการแปรรูปให้เป็นพลังงาน แทนที่จะทิ้งขว้างไปเฉยๆ
– พลังงานน้ำ จริงๆ แล้วในคลื่นน้ำมีพลังงานสะสมอยู่สูงมากเราก็ใช้พลังงานจากน้ำมานานพอสมควรแล้วในรูปแบบของเขื่อน และกังหันน้ำ คาดว่าอนาคตน่าจะมีการต่อยอดออกไปได้อีกหลายแบบ
– พลังงานความร้อนใต้พิภพ ที่บริเวณแกนโลกมีความร้อนมากกว่า 5500 องศาเซลเซียส เมื่อนำมาใช้ประโยชน์มันจึงผลิตพลังงานทดแทนได้มหาศาล มีการสร้างโรงไฟฟ้าจากความร้อนใต้พิภพบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดตรงที่ต้องใช้เงินทุน และพื้นที่ในการก่อสร้างโครงการค่อนข้างมาก
– พลังงานชีวมวล เป็นพลังงานที่ใช้ขยะจากการเกษตรเช่นเดียวกันกับพลังงานชีวภาพ เพียงแต่ประเภทของขยะที่นำมาใช้จะแตกต่างกัน ส่วนรูปแบบการใช้พลังงานชีวมวลก็ทำได้หลากหลายกว่า